ฝ้าเพดานมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับบ้านเรา?

308 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ฝ้าเพดานมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับบ้านเรา?

ฝ้าเพดาน คืออะไร?

ฝ้าเพดาน (Ceiling) คือ ส่วนประกอบหนึ่งในบ้านที่ช่วยปิดงานระบบด้านบนของห้อง เช่น สายไฟ ท่อประปา หรือโครงหลังคา ช่วยให้ห้องดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น นอกจากจะมีหน้าที่ปกปิดระบบงานต่าง ๆ แล้ว ฝ้าเพดานบ้านก็ยังเป็นส่วนหนึ่งช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้  และแบบฝ้าเพดานบางประเภทก็ยังมีคุณสมบัติดูดซับเสียง ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อีกด้วย

 

แบบฝ้าเพดานมีกี่ประเภท

1. ฝ้าเพดานฉาบเรียบ
แบบฝ้าเพดานที่เรียบง่าย เข้าได้กับการตกแต่งทุกสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแบบคลาสสิก โมเดิร์น ร่วมสมัย หรือสไตล์อื่น ๆ ต้องนี่เลย ฝ้าเพดานแบบฉาบเรียบ ซึ่งเป็นฝ้าที่เรียบต่อเนื่องกันทั้งห้อง เป็นการติดตั้งแผ่นฝ้าเพดานบ้านเข้ากับโครงอลูมิเนียมที่อยู่ติดกับโครงหลังคา โดยช่างส่วนใหญ่นิยมใช้แผ่นยิปซั่มหรือแผ่นซีเมนต์บอร์ดที่แข็งแรง น้ำหนักเบา และติดตั้งได้สะดวก โดยหลังติดแผ่นฝ้าแล้ว ช่างจะฉาบปิดรอยต่อด้วยปูน และทาสีตามเก็บงานในตอนท้าย

 

2. ฝ้าเพดานแขวน (ที-บาร์)

ฝ้าเพดานแบบแขวน หรือที-บาร์ (T-Bar) เป็นแบบฝ้าเพดานที่พบเห็นได้บ่อยในอาคารสำนักงาน เพราะติดตั้งง่าย มีราคาไม่สูง และยังบำรุงรักษาง่าย ถ้ามีส่วนที่ชำรุดก็เปลี่ยนเฉพาะจุดได้ ไม่ต้องรื้อออกทำใหม่ทั้งหมด โดยฝ้าประเภทนี้จะมีโครงเป็นรูปตัว T คว่ำ ติดตั้งต่อกันเป็นช่องสี่เหลี่ยม ส่วนใหญ่มักมีขนาด 60×60 ซม. หรือ 60×120 ซม. เมื่อติดตั้งโครงแล้วก็ติดตั้งแผ่นฝ้าปิดได้เลย

 

3. ฝ้าเพดานซ่อนระบบไฟ

สำหรับบ้านไหนที่ต้องการแต่งบ้านให้ดูหรู มีเอกลักษณ์มากขึ้น แบบฝ้าเพดานระบบซ่อนไฟถือเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ เพราะเป็นฝ้าที่เว้นพื้นที่ภายในไว้สำหรับติดตั้งแนวไฟ เมื่อเปิดไฟแล้วแสงไฟจะสะท้อนกับฝ้า ช่วยให้แสงไฟที่ได้นั้นดูนุ่มนวลมากขึ้น หากใช้คู่กับไฟเพดานหรือแชนเดอร์เลียสวย ๆ ก็จะทำให้ภาพรวมดูลงตัวมากขึ้น

 

4. ฝ้าหลุม

อีกหนึ่งแบบฝ้าเพดานบ้านที่ช่วยเสริมความแปลกใหม่ให้กับบ้านไปพร้อมกับความโมเดิร์น และเสริมความหรูหรา ไม่ควรพลาดฝ้าหลุมซึ่งเป็นฝ้าเพดานที่มีลักษณะใกล้เคียงกับฝ้าระบบซ่อนไฟ แต่ฝ้าประเภทนี้จะเป็นการเล่นระดับ เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น โดยทำฝ้าให้เป็นหลุมและซ่อนไฟไว้ตรงจุดที่ต่างระดับกัน เมื่อเปิดไฟแล้วก็จะได้แสงไฟที่ดูสบายตามากขึ้น โดยอาจใช้เป็นที่ซ่อนงานระบบหรือเครื่องปรับอากาศได้ด้วยเช่นกัน

 

5. ฝ้าระแนง

อยากได้แบบฝ้าเพดานที่ดูทันสมัย โล่งโปร่ง สบายตา แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ให้ฟีลบ้านสไตล์รีสอร์ท ฝ้าระแนงถือเป็นฝ้าเพดานบ้านที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นการติดตั้งไม้ระแนงเป็นแนวยาว โดยอาจติดตั้งให้ชิดกันหรือเว้นระยะเล็กน้อย ซึ่งช่วยเพิ่มความอบอุ่น อีกทั้งยังช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

 

6. ฝ้าอะคูสติก

 ฝ้าอะคูสติก ซึ่งเป็นฝ้าเพดานบ้านที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียง และป้องกันเสียงสะท้อนได้ดี ซึ่งช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก มักจะติดตั้งให้เป็นแผ่นเดียวต่อเนื่องกันตลอดทั้งห้อง ส่วนใหญ่จะพบได้ที่ห้องซ้อมดนตรี โรงภาพยนตร์ แต่ถ้าจะนำมาติดตั้งที่บ้านก็ช่วยให้บ้านเงียบสงบ อยู่สบายมากขึ้น

 

วัสดุทำฝ้าเพดานที่นิยมใช้กันมีอะไรบ้าง?

 

1. ฝ้าเพดานไม้

วัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้สามารถนำมาทำเป็นฝ้าเพดานบ้านได้ โดยนิยมใช้ไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้มะค่า ไม้สัก ไม้เต็ง เพื่อความแข็งแรงทนทาน นิยมใช้ไม้ที่มีหน้ากว้าง 3, 4, 5 และ 6 นิ้ว มีความยาวและความหนาให้เลือกหลากหลาย โดยเนื้อไม้แต่ละชนิดก็มีสีสันตามธรรมชาติที่แตกต่างกันออกไป ใช้ได้กับบ้านหลายสไตล์ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูสบาย ๆ สดชื่นมากยิ่งขึ้น

ข้อดี     : สวยงามเป็นธรรมชาติ ออกแบบได้ตามความต้องการ ช่วยให้บ้านดูอบอุ่น สบายตามากขึ้น
ข้อเสีย : ราคาสูง ต้องการการบำรุงรักษาเป็นประจำ ไม่ทนต่อปลวกและความชื้น

 

2. ฝ้าเพดานไวนิล

ใครอยากได้ฝ้าที่ติดตั้งง่าย ลองเลือกใช้ฝ้าเพดานไวนิล เป็นฝ้าเพดานบ้านที่ผลิตจากยูพีวีซี (uPVC) หรือพลาสติกคุณภาพสูง แผ่นฝ้าส่วนใหญ่มักมาพร้อมการติดตั้งแบบเข้าลิ้น แถมยังมีน้ำหนักเบาจึงไม่ส่งผลเสียต่อโครงสร้าง ทำให้ขนย้ายและติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็ออกมาเรียบเนียนทั้งห้อง นอกจากนี้ก็ยังหาซื้อง่าย และมีราคาไม่สูงมากนัก จึงเป็นวัสดุอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ข้อดี     : น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ทนต่อความชื้น ปลวก และยังไม่ลามไฟ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้าน
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก เพราะไม่ทนต่อความร้อน ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงได้

 

3. ฝ้าเพดานแผ่นยิปซั่ม

อยากได้แบบฝ้าเพดานที่ออกแบบได้ตามต้องการทั้งแบบฉาบเรียบที่เน้นความเรียบง่าย ฝ้าหลุมหรือฝ้าระบบซ่อนไฟที่ช่วยเพิ่มลูกเล่นให้กับบ้าน  แผ่นยิปซั่มหรือยิปซั่มบอร์ด ถือเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์อย่างมาก เพราะผลิตจากกากผงแร่ยิปซั่มนำมาอัดเป็นแผ่น แล้วใช้กระดาษแข็งประกบทั้งสองด้าน แล้วทำสีหรือลวดลายต่าง ๆ ส่วนใหญ่มักจะมีขนาด 60×60 ซม. หรือ 60×120 ซม. และความหนาที่ 8, 9, 12 และ 16 มม. โดยแผ่นฝ้ายิปซั่มบางรุ่นก็ยังนำไปทำเป็นฝ้าเพดานบ้านระบบอะคูสติกที่ช่วยป้องกันเสียงได้อีกด้วย

ข้อดี     : ราคาไม่สูง หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลายรุ่น นำไปติดตั้งได้หลายรูปแบบ หรือจะทำสีก็ได้เช่นกัน 
ข้อเสีย : ไม่เหมาะกับการใช้งานภายนอก เพราะแผ่นฝ้าบางรุ่นไม่ทนปลวกและความชื้น

 

4. ฝ้าเพดานไฟเบอร์ซีเมนต์

ใครอยากได้แผ่นฝ้าขนาดมาตรฐาน ช่วยเปลี่ยนบ้านให้มีระเบียบ เหมาะกับฝ้าเพดานแบบแขวนหรือที-บาร์ ควรเลือกใช้ไฟเบอร์ซีเมนต์ เพราะเป็นแผ่นฝ้าที่มาพร้อมขนาดมาตรฐาน 60×60 ซม. และ 60×120 ซม. หากต้องการแผ่นใหญ่กว่านี้หรือรูปแบบไม้ระแนงก็มีให้เลือกตามต้องการ นอกจากนี้ไฟเบอร์ซีเมนต์ก็ยังแข็งแรง ทนต่อปลวก และความชื้นได้ดี เพราะผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสมกับเส้นใยเซลลูโลส จึงใช้งานในห้องน้ำได้เลยทีเดียว 

ข้อดี     : แข็งแรง ทนความชื้น ไม่มีส่วนผสมของไม้จึงปลอดภัยต่อปลวก เหมาะกับฝ้าเพดานบ้านแบบแขวน
ข้อเสีย : มีน้ำหนักมาก ไม่สามารถฉาบบริเวณรอยต่อได้ จึงไม่เหมาะกับการติดตั้งแบบฉาบเรียบ

 

5. ฝ้าเพดานโลหะ

อยากทำห้องดูหนัง ห้องร้องคาราโอเกะไว้ที่บ้าน ร้องเพลงดังแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะส่งเสียงรบกวนคนในบ้าน สามารถเลือกใช้ฝ้าเพดานที่ทำจากโลหะได้ เพราะนำมาทำเป็นฝ้าแบบอะคูสติกได้ โดยเจาะรูและติดแผ่นดูดซับเสียงที่ด้านหลัง โดยฝ้าโลหะมีให้เลือกทั้งเหล็กหรืออลูมิเนียม ซึ่งใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก หากเป็นฝ้าเพดานอลูมิเนียมจะมีน้ำหนักเบากว่า แต่ก็มีราคาสูงกกว่าแบบเหล็ก จึงควรเลือกใช้ตามงบประมาณที่มี 

ข้อดี     : แข็งแรง ทนทาน ทนปลวก ทนความชื้น จึงใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกบ้าน
ข้อเสีย : ราคาสูง มีรูปแบบตายตัว ไม่สามารถออกแบบให้ตรงตามความต้องการได้ และต้องการช่างเฉพาะทางมาติดตั้ง

 

ตารางสรุปง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนเลือกแบบฝ้าเพดานที่เหมาะกับบ้านตัวเองมาให้แล้ว!

 

แหล่งที่มาข้อมูล : www.nocnoc.com/blog/how-many-type-of-house-ceiling/

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้